วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554

เวนิสนครแห่งมนต์ขลัง





เวนิสนครแห่งมนต์ขลังและความรักตลอดกาลที่แสนโรแมนติก เคยเหนื่อยแล้วนึกแว๊บๆนึกฝันกันบ้างมั้ยคะว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ ที่อยากไปมาทั้งชีวิต วันนี้เป็นวันที่อากาศหนาวดีจังเลยทำให้นึกถึงอะไรที่แสนโรแมนติก แต่สิ่งที่วันนี้ทำให้เกิดไอเดียและอยากเล่าให้ฟังก็คือการนึกถึงนครแห่งมนต์ขลังเวนิส เกาะอันแสนโรแมนติกของอิตาลี อิตาลีนี่เป็นเมื่องที่แสนโรแมนติกจริงๆเลยนะคะ มีหลายๆที่ที่น่าไปเที่ยว ไปเยือนสักครั้งในชีวิต เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก เวนิสเป็นเมืองที่ผู้คนในเมืองมีการใช้เรือ แทนการใช้รถ แต่รถที่ที่นี้เค้าใช้กันสวนใหญ่จะเป็นพวกจักรยานหรือรถป๊อปเล็กน่ารักๆ เมือเดินทางไปรอบๆเมือง อาจจะรู้สึกอิจฉาเล็กๆว่าทำไมนะมีแต่คนเดินจูงมือกันมาเป็นคู่ๆ (อิจฉาหนักก็ในกรณีที่ไปคนเดียว) อย่างว่าหละคะใครจะอดใจได้ใช่มั้ยทั้งบรรยากาศตอนเช้าที่น้ำทะเลสีเขียวอมฟ้าล้อมรอบเมืองทั้งเมืองเปรียบได้กับเมืองแห่งมนต์ขลังในนวนิยาย แล้วยิ่งบรรยากาศตอนดึกๆนะคะ สุดแสนโรแมนติกแสงสีที่กระทบกับน้ำทะเลดูเป็นประกายเหมือนดาวบนผืนน้ำ เออจิงด้วยคะลืมบอกไปนิดนึง ถ้ามาถึงดินแดนแห่งมนต์ขลังนครเวนิสแล้วอย่าลืมที่จะจ่ายเงินสักหน่อยเพื่อลิ้มลองกับบรรยากาศแสนอบอุ่นยามยามเย็นบนเรือกอนโดลา พร้อมกันกันฟังเพลงขับกล่อมอันแสนโรแมนติกจากคนพายเรือ ระหว่างที่เรือกอนโดลาภายลัดเลาะไปตามสะพานและพาคุณชมเมืองต่างๆ มีทริกเล็กๆอยู่นิสสสนึงให้เพื่อนได้ไปทดสอบกันคะว่าจริงอย่างคำล่ำลือมั้ย ถามคนที่นั้นหรือหาข้อมูลไปให้แน่ใจว่าสะพานถอนหายใจ( Bridge of sigh) อยู่ตรงไหนแล้วระฆังปาไนล์จะดังเวลาไหนที่ต้องถามอย่างนี้เพราะเค้ามีความเชื่อกันว่ามีความเชื่อมาว่า ถ้าคู่รักได้จูบกัน เมื่อตอนระฆังปาไนล์ดังตอนเย็น ขณะลอดข้ามสะพานถอนหายใจ ถือว่าคู่รักคู่นั้นจะรักกันชั่วนิจนิรันดร์ สุดแสนโรแมนติกเลยคะ แต่จริงๆแล้วประวัติของสะพานถอนหายใจไม่โรแมนติกนะคะ มีอยู่ว่า สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sigh) สะพานนี้ใช้เดินข้ามเพื่อไปเข้าคุกที่อยู่อีกฝั่ง วิวที่เห็นจากสะพานนี้จะเป็นวิวที่สวยงามของเมืองเวนิส แสงสว่างที่เห็นจากช่องสะพาน นักโทษจะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเข้าคุก และจะถอนหายใจด้วยเหตุผลนี้ เพราะรู้ตัวว่าจะไม่มีโอกาสเดินออกมาเห็นแสงสว่างอีกแล้ว เวนิสได้ฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก(Queen of the Adriatic), เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges), และเมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) แค่ฉายาก็กระตุ้นต่อมให้อยากไปเยือนแล้วคะ
วันนี้อัพเดทนครเวนิสไปที่เดียวก่อนนะคะ วันพรุ่งนี้จะมากระตุ้นต่อมโรแมนติกด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในอิตาลี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น